ประกันคุ้มครองสินเชื่อบ้านหรือประกัน MRTA คืออะไร
การกู้สินเชื่อเพื่อซื้อบ้านหรือที่อยู่อาศัยของตัวเอง ถือว่าเป็นการตัดสินใจและความรับผิดชอบครั้งใหญ่ในการผ่อนชำระหนี้ทุก ๆ เดือน แต่หากเกิดเหตุร้ายแรงกับผู้กู้สินเชื่อจนทำให้ไม่สามารถชำระหนี้ต่อได้ อาจกลายเป็นภาระใหญ่เกินกว่าคนข้างหลัง เช่น ครอบครัวหรือทายาท จะรับผิดชอบไหว และเป็นปัญหาตามมาภายหลังได้
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันเรามีทางเลือกเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระการผ่อนค่าบ้านให้เบาลง นั่นคือ ประกัน MRTA สำหรับคนมีบ้าน ซึ่งช่วยและดูแลหนี้คงเหลือ โดยครอบครัวหรือทายาทไม่ต้องกังวลเรื่องการแบกรับหนี้สินต่อ บทความนี้จะพามาทำความรู้จักว่า ประกัน MRTA คืออะไร มีความสำคัญและประโยชน์ต่อผู้กู้ยืมสินเชื่อบ้านอย่างไรบ้าง
ประกันคุ้มครองสินเชื่อบ้าน หรือ ประกัน MRTA คืออะไร?
Mortgage Reducing Term Assurance หรือ ประกัน MRTA คือ ประกันคุ้มครองสินเชื่อบ้าน ออกแบบมาให้คุ้มครองวงเงินกู้ยืมเพื่อการซื้อที่อยู่อาศัย มีบทบาทในการแบ่งเบาหรือช่วยรับผิดชอบการชำระหนี้บ้านส่วนที่เหลือ เมื่อผู้ทำประกันเกิดเหตุไม่คาดฝัน เช่น เสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรจนไม่อาจรับผิดชอบหนี้คงเหลือได้ ซึ่งประกันดังกล่าวทางธนาคารมักแนะนำให้ทำควบคู่กับการขอสินเชื่อ โดยมีค่าเบี้ยประกันเพิ่มเติม และมาพร้อมสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เช่น ส่วนลดสำหรับอัตราดอกเบี้ย เป็นต้น
ประกัน MRTA คุ้มครองสินเชื่อบ้านอย่างไรบ้าง?
หน้าที่หลักของประกัน MRTA คือการคุ้มครองและรับผิดชอบชำระหนี้คงเหลือแทนทายาทหรือครอบครัวผู้ทำประกัน โดยมีธนาคารและสถาบันทางการเงินเป็นผู้รับผลประโยชน์ ซึ่งรูปแบบการคุ้มครองประกันคุ้มครองสินเชื่อบ้านนั้น สามารถแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่
-
คุ้มครองตามวงเงินกู้
การคุ้มครองรูปแบบนี้ ถูกออกแบบให้สอดคล้องกับวงเงินกู้และระยะเวลาในการผ่อนชำระ โดยทุนประกันเริ่มต้นนั้นมีมูลค่าเท่ากับยอดเงินกู้ทั้งหมด สามารถขอลดวงเงินความคุ้มครองลงได้ ทั้งนี้ ทุนประกันจะลดลงเรื่อย ๆ ตามจำนวนเงินเอาประภัยที่ลดลงตามปีกรมธรรม์มีระยะเวลาคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปี, 20 ปี ไปจนถึง 30 ปี สามารถจ่ายเบี้ยประกันได้แบบครั้งเดียว หรือผ่อนตามเงื่อนไขของธนาคาร
ตัวอย่างการคุ้มครองตามวงเงินกู้: คุณ A กู้ซื้อบ้านมาทั้งหมด 2 ล้านบาท ผ่อนนาน 20 ปี พร้อมทำประกัน MRTA ซึ่งคุ้มครอง 2 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 20 ปีเท่ากัน เมื่อคุณ A เสียชีวิตในปีที่ 10 และมีจำนวนเงินเอาประภัยตามกรมธรรม์ 1,100,000 บาท ประกันจะรับผิดชอบหนี้ส่วนนี้ทั้งหมด ส่วนบ้านหลังดังกล่าวจะตกเป็นของครอบครัวโดยไม่ต้องชำระหนี้ต่อ
-
คุ้มครองตามระยะเวลา
เป็นรูปแบบที่มีการคุ้มครองตามระยะเวลาในการผ่อนชำระ โดยเบี้ยประกันสามารถจ่ายได้ครั้งเดียวหรือผ่อนรวมกับค่าบ้านได้ แต่เบี้ยประกันจะสูงขึ้นตามระยะเวลาในการคุ้มครอง เพราะยิ่งผ่อนนานก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงให้กับบริษัทประกันมากขึ้นด้วย ข้อดีคือ การคุ้มครองนั้นครอบคลุมตลอดช่วงเวลาผ่อนชำระหนี้ เหมือนมีแผนสำรองตลอดเวลาการจ่าย อีกทั้งครอบครัวก็ไม่ต้องเสียบ้านไปเพราะขาดผ่อน
ตัวอย่างการคุ้มครองตามระยะเวลา: คุณ B กู้ซื้อบ้านมา 2.5 ล้าน ผ่อนเป็นเวลา 20 ปี พร้อมทำ MRTA ประกันจะให้การคุ้มครองตลอดระยะเวลา 20 ปี เมื่อคุณ B เสียชีวิตในปีที่ 15 โดยมีความคุ้มครองเหลืออยู่ 8 แสนบาท ประกันจึงทำการจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวแทนครอบครัวคุณ B และบ้านซึ่งผ่อนชำระอยู่ ครอบครัวก็จะได้รับสิทธิ์การเป็นเจ้าของต่อไป
การทำประกัน MRTA มีประโยชน์อย่างไรสำหรับผู้กู้บ้าน
การโปะบ้านไม่ใช่เพียงการจ่ายเงินเพิ่ม แต่เป็นกลยุทธ์ทางการเงินที่ต้องวางแผนอย่างรอบคอบเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด หากคุณกำลังหาวิธีที่มีประสิทธิภาพ ขอแนะนำ 5 วิธี ดังต่อไปนี้
-
คุ้มครองภาระหนี้สิน
ในกรณีผู้กู้ยืมเสียชีวิตลง ประกัน MRTA จะรับผิดชอบจ่ายส่วนที่เหลือให้กับธนาคารแทน เพื่อไม่ให้หนี้ตกทอดไปยังทายาทและครอบครัว
-
สร้างความมั่นคงให้กับครอบครัว
หากวันใดวันหนึ่งเกิดเหตุร้ายแรงกับผู้กู้สินเชื่อ ก็สามารถมั่นใจได้ว่าหนี้ส่วนที่เหลือมีบริษัทประกันดูแลให้ และกรรมสิทธิ์บ้านยังคงเป็นของครอบครัวลูกหนี้ โดยไม่ต้องรับภาระต่อหรือกังวลเรื่องการถูกยึด
-
ลดความเสี่ยงทางการเงิน
ประกันคุ้มครองสินเชื่อบ้าน ช่วยลดโอกาสการเกิดหนี้เสียเพราะขาดการผ่อนชำระได้ พร้อมบริหารความเสี่ยงทางการเงินในระยะยาว ช่วยให้ไม่เป็นภาระความรับผิดชอบของคนข้างหลัง
-
ชำระเบี้ยประกันครั้งเดียว
ผู้กู้สามารถเลือกได้ว่าจะจ่ายเบี้ยประกันแบบครั้งเดียว หรือผ่อนพร้อมกับค่างวดบ้าน โดยการจ่ายแบบครั้งเดียวนั้นช่วยให้สามารถวางแผนการเงินได้สะดวกขึ้น ลดรายจ่ายเพิ่มเติมของแต่ละเดือน
-
นำไปลดหย่อนภาษีได้
เบี้ยประกัน MRTA นั้น ใช้หย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ โดยตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร สามารถลดหย่อนได้สูงสุด 1 แสนบาท
-
เป็นมรดกให้ลูกหลาน
หลังจากผู้กู้ยืมเสียชีวิตหรือทุพพลภาพ เมื่อประกันชำระหนี้บ้านส่วนที่เหลือแทนแล้ว บ้านหลังดังกล่าวจะอยู่ในสถานะปลอดหนี้ พร้อมสามารถส่งต่อให้ลูกหลานได้อย่างเต็มรูปแบบ

ประกันคุ้มครองสินเชื่อบ้าน MRTA เหมาะกับใคร?
-
ผู้ที่เป็นเสาหลักของครอบครัว
บุคคลซึ่งมีบทบาทหลักในการหาเงินมาดูแลค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ของครอบครัว รวมถึงการชำระหนี้ค่าบ้านในแต่ละเดือน
-
ผู้ที่มีภาระหนี้สินระยะยาว
การกู้สินเชื่อเป็นระยะเวลานาน ๆ เช่น 20–30 ปี อาจเกิดความเสี่ยงจากเรื่องไม่คาดฝันระหว่างการผ่อนชำระได้ ถือเป็นอีกกลุ่มซึ่งมีความจำเป็นต้องทำประกัน MRTA
-
ผู้ที่ต้องการลดความเสี่ยงทางการเงิน
เพื่อบริหารความเสี่ยงพร้อมสร้างความมั่นคงในระยะยาว การทำประกันคุ้มครองสินเชื่อบ้านนั้น จะช่วยลดความเสี่ยงจากเหตุไม่คาดฝันต่าง ๆ ให้เบาลง และลดวิกฤตทางการเงินของครอบครัวได้
ข้อควรพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อประกัน MRTA
-
เปรียบเทียบความคุ้มครองจากบริษัทประกันต่าง ๆ
ผู้ให้บริการประกันในแต่ละบริษัท จะตั้งเงื่อนไขการรับประกันไว้แตกต่างกัน ทั้งในด้านระยะเวลาคุ้มครอง, ทุนประกัน, การคุ้มครองเพิ่มเติม ไปจนถึงเบี้ยประกันที่ต้องจ่าย โดยผู้ทำประกันคุ้มครองสินเชื่อบ้าน ต้องเปรียบเทียบทั้งราคาและเงื่อนไขก่อนการตัดสินใจก่อนเสมอ
-
ตรวจสอบเงื่อนไขและข้อยกเว้นของกรมธรรม์
กรมธรรม์ประกันทุกฉบับมีข้อยกเว้นการคุ้มครองระบุไว้ ซึ่งมีบางสาเหตุที่ประกันจะปฏิเสธการคุ้มครอง ทำให้ไม่สามารถเคลมประกันได้ เช่น การฆ่าตัวตายใน 1 ปีแรก, อาการทุพพลภาพถาวรบางประเภท หรืออาการเจ็บป่วยซึ่งมีมาก่อนทำประกัน
-
ความสามารถในการจ่ายเบี้ยประกัน
เป็นส่วนสำคัญที่ต้องพิจารณาก่อนการทำประกันคุ้มครองสินเชื่อบ้าน โดยทั่วไปธนาคารจะให้เลือกวิธีการจ่ายเบี้ยประกัน 2 แบบ คือจ่ายครั้งเดียวในตอนต้นสัญญา กับการนำไปรวมไปในยอดเงินกู้แล้วผ่อนจ่ายไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งผู้ทำประกันต้องพิจารณาว่าตนมีความสามารถในการจ่ายเบี้ยแบบไหน เมื่อเห็นว่าเบี้ยสูงเกินไป อาจต้องเลือกให้คุ้มครองแบบบางส่วน เช่น ลดวงเงินที่คุ้มครองเหลือเพียง 50%-70% เป็นต้น
การทำประกัน MRTA คือทางเลือกสำคัญที่ช่วยให้คุณมั่นใจว่า แม้เกิดเหตุร้ายแรงจนทำให้ไม่สามารถชำระหนี้ต่อได้ ก็ยังมีประกันเข้ามาช่วยดูแลยอดหนี้คงเหลือให้ตามเงื่อนไข และบ้านของคุณจะยังคงเป็นกรรมสิทธิ์ของคนในครอบครัวเช่นเดิม
หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่กำลังผ่อนบ้านแต่ประสบปัญหาทางการเงิน หมุนเวียนค่าใช้จ่ายไม่ทัน เริ่มชำระหนี้ไม่ไหวแต่ไม่อยากผิดนัดชำระ LH Bank ขอเสนอ
รีไฟแนนซ์บ้านแสนคุ้มค่า ให้คุณนำเงินก้อนไปไถ่ถอนสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยจากสถาบันการเงินเดิม พร้อมขอวงเงินเพิ่มสำหรับการต่อเติม ตกแต่ง ซื้อเฟอร์นิเจอร์ หรือสินเชื่ออเนกประสงค์ได้ตามต้องการ ด้วยเงื่อนไขพิเศษที่คัดสรรมาแล้วเพื่อทุกคน
* หลักเกณฑ์และเงื่อนไขต่าง ๆ เป็นไปตามประกาศและระเบียบที่ธนาคารกำหนด
**กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
-
อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (EIR) สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ปัจจุบัน อยู่ระหว่าง 4.69% - 4.81% ต่อปี สมมติฐานการคำนวณมาจากอัตราดอกเบี้ย MRR = 8.53% ต่อปี อ้างอิง ณ วันที่ 27 พ.ค. 2568 ทั้งนี้ “อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้” รายละเอียดการคำนวณเพิ่มเติมดูได้ที่เว็บไซต์ www.lhbank.co.th
-
อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปี ดอกเบี้ยที่แรก = 1.59% ต่อปี ดอกเบี้ยปีที่ 2-3 = 3.63% ต่อปี โดยลูกค้าต้องทำประกัน MRTA/MLTA และไม่ฟรีค่าจดจำนองตามเงื่อนไขของธนาคาร
-
เงื่อนไขและอัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด
-
โปรโมชันวันนี้ – 31 ต.ค. 2568