อัตราดอกเบี้ย EIR คืออะไร? สำคัญอย่างไรบ้าง
คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมบางครั้งเราเลือกสินเชื่อดูเหมือนดอกเบี้ยต่ำ แต่กลับต้องจ่ายเงินมากกว่าคาด? คำตอบอยู่ใน "อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง" หรือ EIR (Effective Interest Rate) ซึ่งหลายคนมองข้าม และเป็นตัวแปรสำคัญสำหรับการคำนวณอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงซ่อนอยู่ในสินเชื่อซึ่งคุณอาจมองข้ามไป! บทความนี้จะพาคุณทำความรู้จักกับ EIR คืออะไร มีความสำคัญอย่างไรบ้าง เพื่อช่วยให้เข้าใจต้นทุนการกู้ยืมสินเชื่อได้ดียิ่งขึ้น
อัตราดอกเบี้ย EIR คืออะไร?
Effective Interest Rate หรือ EIR คือ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง บอกต้นทุนการกู้ยืมทั้งหมดซึ่งคุณต้องจ่ายจริง ๆ ตลอดอายุสัญญาเงินกู้ ซึ่งต่างจากอัตราดอกเบี้ยคงที่หรืออัตราดอกเบี้ยรายปีทั่วไป
อัตราดอกเบี้ย EIR สำคัญต่อการรีไฟแนนซ์อย่างไร?
หากคุณกำลังวางแผนรีไฟแนนซ์ และต้องการเปรียบเทียบข้อเสนอจากธนาคารต่าง ๆ การคำนวณอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (EIR) จะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ต้องจ่ายตลอดอายุสัญญา และเปรียบเทียบได้ชัดเจนว่าแต่ละธนาคารให้ข้อเสนอคุ้มค่าหรือไม่
●ประเมินต้นทุนการกู้ยืมที่แท้จริง
การคำนวณ EIR จะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ต้องจ่ายจริง ไม่ใช่แค่ตัวเลขสวย ๆ ที่เห็นทั่วไป โดยอัตราดอกเบี้ยรายปี มักบอกแค่ดอกเบี้ยพื้นฐาน แต่ EIR จะรวมทุกอย่างเข้าไป ทั้งจำนวนงวดผ่อน ความถี่การผ่อน จำนวนเงินแต่ละงวด
ตัวอย่าง
เวลาธนาคารเสนออัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี ฟังดูน่าสนใจ แต่เมื่อคำนวณเป็น EIR อาจพบว่าคุณต้องจ่ายถึง 5-6% เลยทีเดียว!
●ใช้เปรียบเทียบข้อเสนอทางการเงิน
EIR เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้กู้สามารถเปรียบเทียบข้อเสนอสินเชื่อจากธนาคารต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง เพราะเป็นการคำนวณที่รวมดอกเบี้ยตลอดอายุสัญญา ไว้ในอัตราเดียวกัน
ตัวอย่าง
ลองนึกภาพว่าธนาคาร A และ B เสนอสินเชื่อ 2,000,000 บาทเท่ากัน ด้วยดอกเบี้ย 5% เท่ากัน แต่เมื่อดู EIR กลับพบว่าธนาคาร A มี EIR 4.7% สำหรับผ่อน 20 ปี ส่วนธนาคาร B มี EIR 5.2% สำหรับผ่อน 24 ปี ความแตกต่างนี้เกิดจากโครงสร้างสินเชื่อที่ไม่เหมือนกัน ซึ่ง EIR จะช่วยให้คุณเห็นภาพชัดเจนว่าอันไหนคุ้มค่ากว่าจริง ๆ
●ช่วยวางแผนการเงินระยะยาว
การเข้าใจ EIR จะช่วยให้คุณมองเห็นภาพรวมของภาระการเงินในระยะยาว โดยเฉพาะกับการรีไฟแนนซ์ที่มีผลต่อเนื่องหลายปี นอกจากดู EIR ต่ำที่สุดแล้ว คุณควรพิจารณาปัจจัยอื่นด้วย เช่น ความยืดหยุ่นในการชำระ และความสามารถในการผ่อนของคุณเอง เพราะอาจไม่ได้คุ้มค่าในระยะยาวเมื่อพิจารณาตามเงื่อนไขอื่น ๆ เพิ่มเติม
ที่สำคัญคือ ระยะเวลาผ่อนนานขึ้นทำให้ EIR สูงขึ้น และดอกเบี้ยรวมทั้งหมดจะสูงขึ้น ดังนั้นการชั่งน้ำหนักระหว่างจำนวนเงินผ่อนต่องวดกับดอกเบี้ยรวมจึงเป็นเรื่องสำคัญ
ข้อควรพิจารณาเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย EIR
แม้ EIR ต่ำจะดูน่าสนใจ แต่ไม่ควรตัดสินใจจากตัวเลขนี้เพียงอย่างเดียว ควรดูปัจจัยอื่นด้วย เช่น
- ความยืดหยุ่นในการผ่อนชำระคืน
- เงื่อนไขสินเชื่อแต่ละธนาคาร
- ความสามารถในการผ่อนชำระของคุณเอง
ระยะเวลาผ่อนที่นานขึ้นทำให้ EIR สูงขึ้น และจ่ายดอกเบี้ยรวมมากขึ้นในระยะยาว ต้องชั่งน้ำหนักให้ดีว่าอะไรเหมาะกับสถานการณ์การเงินของคุณมากที่สุด
จากข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวมา จะเห็นได้ว่า EIR หรืออัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง คือเครื่องมือสำคัญ ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าใจต้นทุนแท้จริงของการกู้เงิน เพื่อให้เห็นภาพรวมของภาระหนี้ทั้งหมดตลอดระยะเวลากู้
ดังนั้น หากคุณกำลังวางแผนจะรีไฟแนนซ์หรือเลือกสินเชื่อใหม่ การพิจารณา EIR ควบคู่กับเงื่อนไขอื่น ๆ ของธนาคาร จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและรอบคอบยิ่งขึ้น
หากคุณกำลังพิจารณาสินเชื่อ
รีไฟแนนซ์บ้าน LH Bank เรามีผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมวางแผน ให้คำปรึกษา และนำเสนอสินเชื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของคุณ เพื่อให้การรีไฟแนนซ์ไม่เพียงแค่ช่วยลดภาระในปัจจุบัน แต่ยังเป็นก้าวสำคัญสู่ความมั่นคงทางการเงินในอนาคต
* หลักเกณฑ์และเงื่อนไขต่าง ๆ เป็นไปตามประกาศและระเบียบที่ธนาคารกำหนด
**กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
- อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (EIR) สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ปัจจุบัน อยู่ระหว่าง 4.69% - 4.81% ต่อปี สมมติฐานการคำนวณมาจากอัตราดอกเบี้ย MRR = 8.53% ต่อปี อ้างอิง ณ วันที่ 27 พ.ค. 2568 ทั้งนี้ “อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้” รายละเอียดการคำนวณเพิ่มเติมดูได้ที่เว็บไซต์ http://www.lhbank.co.th
- อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปี ดอกเบี้ยคงที่เริ่มต้นปีแรก = 1.59% ต่อปี ดอกเบี้ยปีที่ 2-3 = 3.63% ต่อปี และทำประกัน MRTA/MLTA และไม่ฟรีค่าจำนองตามเงื่อนไขของธนาคาร
- เงื่อนไขและอัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด
- โปรโมชันวันนี้ – 31 ต.ค. 2568