ลูกค้าบุคคล > บทความสินเชื่อ > 6 วิธีผ่อนบ้านให้หมดไว! ปลดหนี้เร็วไม่ต้องรอ 30 ปี
บทความสินเชื่อ 2568

6 วิธีผ่อนบ้านให้หมดไว! ปลดหนี้เร็วไม่ต้องรอ 30 ปี

 

อัตราดอกเบี้ย EIR คืออะไร

การมีบ้านเป็นของตนเองคือเป้าหมายสำคัญของใครหลายคน แต่การจะเป็นเจ้าของบ้านได้นั้นมักต้องแลกมากับภาระผูกพันทางการเงินระยะยาว ซึ่งอาจใช้เวลาตั้งแต่ 20 ปี หรือนานถึง 40 ปี ขึ้นอยู่กับศักยภาพทางการเงินของแต่ละบุคคล

นอกจากนี้ ยังมีภาระดอกเบี้ยจำนวนมากที่ต้องจ่ายตลอดสัญญา หลายคนจึงเริ่มหาวิธีการวางแผนการเงินอย่างจริงจัง บทความนี้จึงได้รวบรวม 6 วิธีผ่อนบ้านให้หมดไวทำได้จริง รวมถึงเจาะลึกทุกเคล็ดลับ ตั้งแต่เทคนิคง่าย ๆ ที่เริ่มได้ทันที ไปจนถึงการวางแผนระยะยาวที่จะช่วยให้คุณประหยัดดอกเบี้ยได้มากขึ้น และเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์บ้านในฝันได้เร็วกว่าที่คิด หากคุณอยากมีบ้านและต้องการอิสรภาพทางการเงินที่เร็วขึ้น ไปดูรายละเอียดทั้งหมดกันเลย
 

ทำไมการผ่อนบ้านถึงใช้เวลานาน ?

ผ่อนบ้านมาหลายปี แต่ยอดหนี้กลับลดลงไปเพียงนิดเดียว? คำตอบอยู่ที่การคำนวณดอกเบี้ยแบบ “ลดต้นลดดอก” ซึ่งค่างวดทุกเดือนจะถูกแบ่งเป็น เงินต้น (ยอดกู้จริง) และ ดอกเบี้ย (ค่าบริการ) โดยในช่วงปีแรก ๆ ของสัญญานั้น สัดส่วนของค่างวดส่วนใหญ่จะถูกนำไปจ่ายเป็นดอกเบี้ยก่อนเป็นหลัก ทำให้เงินต้นลดช้าลง หากต้องการผ่อนบ้านให้หมดไว ลดภาระหนี้ระยะยาว ต้องหาวิธีที่เหมาะสมในการผ่อนชำระอย่างมีประสิทธิภาพ
 

6 วิธีผ่อนบ้านให้หมดไว ลดภาระหนี้ระยะยาว

หากคุณต้องปิดหนี้บ้าน ผ่อนบ้านให้หมดเร็ว และเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์บ้านโดยสมบูรณ์ก่อนครบกำหนดสัญญาที่ตกลงกับธนาคาร สามารถทำได้ด้วยวิธี ดังนี้

1. จ่ายเกินค่างวดอย่างสม่ำเสมอ

การจ่ายเกินค่างวดอย่างสม่ำเสมอ เป็นวิธีช่วยให้การผ่อนบ้านให้หมดไวขึ้น เพราะการจ่ายเงินส่วนที่จ่ายเกินจากค่างวดปกติ เงินส่วนที่เกิน จะไม่ถูกนำไปคิดดอกเบี้ย แต่จะถูกนำไป ตัดยอดเงินต้นโดยตรง เมื่อเงินต้นลดลงเร็วขึ้น ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในงวดถัดไปก็จะลดลงตามไปด้วย 
ยกตัวอย่าง สินเชื่อบ้าน 3 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 5% ต่อปี โดยมีค่างวดปกติที่ต้องชำระ 16,100 บาทต่อเดือน
กรณีชำระตามปกติ: ค่างวด 16,100 บาท จะถูกแบ่งเป็น
  • จ่ายดอกเบี้ย ≈ 12,500 บาท
  • จ่ายเงินต้น ≈ 3,600 บาท 
กรณีชำระเกินค่างวด : ค่างวด 16,100 บาท ส่วนที่จ่ายเพิ่มเกิน 2,000 บาท = ชำระรวม 18,100 บาท: ยอดชำระจะถูกแบ่งเป็น
  • จ่ายดอกเบี้ย ≈ 12,500 บาท (เท่าเดิม)
  • จ่ายเงินต้น ≈ 5,600 บาท (3,600 บาทจากค่างวดปกติ + 2,000 บาทที่จ่ายเพิ่ม)
จะเห็นได้ว่าการจ่ายเพิ่มเพียง 2,000 บาทในงวดเดียว ทำให้เงินต้นลดลงมากกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด แม้จะเป็นจำนวนเงินที่ไม่มาก แต่เมื่อทำอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ วิธีนี้จะช่วยให้การผ่อนบ้านหมดไวขึ้นได้หลายปี พร้อมกับประหยัดค่าดอกเบี้ยโดยรวมได้เป็นจำนวนมาก
 

2. เร่งจ่ายในช่วงอัตราดอกเบี้ยต่ำ

สัญญาสินเชื่อที่อยู่อาศัยมักมีข้อเสนออัตราดอกเบี้ยพิเศษในช่วง 1-3 ปีแรก ซึ่งถือเป็น “นาทีทอง” สำหรับการเร่งลดเงินต้นอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เนื่องจากในช่วงเวลานี้ ภาระดอกเบี้ยในแต่ละงวดจะอยู่ในระดับต่ำ ทำให้เงินค่างวดส่วนใหญ่สามารถถูกนำไปตัดชำระคืนเงินต้นได้มากกว่าปกติ

ดังนั้น เงินที่จ่ายเพิ่มในช่วงนี้ จึงเปรียบเสมือนการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงที่สุด ในการลดระยะเวลาผ่อนชำระและประหยัดดอกเบี้ยในระยะยาวได้อย่างดี

ความสำคัญของดอกเบี้ย EIR
 

3. จ่ายเป็นเงินก้อนเมื่อมีโอกาส 

นอกเหนือจากการจ่ายเกินค่างวดรายเดือน ยังมีอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยผ่อนบ้านให้หมดเร็ว คือ การนำเงินก้อนมาชำระหนี้เพิ่มเติมเมื่อมีโอกาส เช่น เงินโบนัสประจำปี, ค่าคอมมิชชั่น, หรือเงินได้พิเศษอื่น ๆ วิธีนี้จะทำให้เงินจำนวนดังกล่าวถูกนำไปหักลดจากยอดเงินต้นคงค้างโดยตรงทั้งหมดในครั้งเดียว ช่วยให้ฐานในการคำนวณดอกเบี้ยสำหรับงวดถัดไปลดลงอย่างก้าวกระโดด

ยกตัวอย่าง ยอดเงินต้นคงเหลือของคุณอยู่ที่ 2,500,000 บาท และคุณได้รับโบนัสประจำปีจำนวน 100,000 บาท
  • ก่อนชำระเงินก้อน: ยอดเงินต้นคงค้าง คือ 2,500,000 บาท
  • เมื่อนำเงินโบนัส 100,000 บาทมาโปะเพิ่ม ยอดเงินต้นจะลดลงทันที หลังจากหักดอกเบี้ย ณ วันนั้น และเงินส่วนที่เหลือจะนำไปตัดชำระเงินต้นทั้งหมด
วิธีนี้จะช่วยให้ฐานการคำนวณจากเงินต้นต่ำลง ส่งผลต่อค่างวดปกติ ช่วยให้คุณสามารถตัดเงินต้นได้ในสัดส่วนที่สูงขึ้น การนำเงินก้อนมาโปะบ้านจึงเป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงสุดที่จะช่วยย่นระยะเวลาการผ่อนลงได้หลายปี
 

4. รีไฟแนนซ์ หรือ รีเทนชันเพื่อขอลดดอกเบี้ย

เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาโปรโมชัน 3 ปีแรก อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านจะปรับตัวสูงขึ้นเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัว (Floating Rate) ส่งผลให้ภาระดอกเบี้ยในแต่ละเดือนเพิ่มขึ้น และทำให้การชำระคืนเงินต้นทำได้ช้าลง การรีไฟแนนซ์และการรีเทนชันจึงเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ต้องพิจารณาทุก ๆ 3 ปี เพื่อควบคุมภาระดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำเสมอ

ยกตัวอย่าง ยอดเงินต้นคงเหลืออยู่ที่ 2,800,000 บาท และคุณยังชำระค่างวดเท่าเดิมที่ 17,700 บาทต่อเดือน

กรณีที่ 1: อัตราดอกเบี้ยลอยตัว (หลังหมดโปรโมชัน) ที่ 5.5% ต่อปี
  • ค่างวด 17,700 บาท จะถูกแบ่งเป็น:
  • จ่ายดอกเบี้ย ≈ 12,833 บาท
  • จ่ายเงินต้น ≈ 4,867 บาท
กรณีที่ 2: อัตราดอกเบี้ยใหม่ (หลังรีไฟแนนซ์/รีเทนชัน) ที่ 3.0% ต่อปี
  • ค่างวด 17,700 บาท จะถูกแบ่งเป็น:
  • จ่ายดอกเบี้ย ≈ 7,000 บาท
  • จ่ายเงินต้น ≈ 10,700 บาท
วิธีนี้ช่วยลดอัตราดอกเบี้ยลงได้อย่างชัดเจน ทำให้ตัดเงินต้นได้มากขึ้น การรีไฟแนนซ์หรือรีเทนชันอย่างสม่ำเสมอทุก 3 ปีจึงเป็นวิธีที่ช่วยให้ผ่อนบ้านหมดไวและประหยัดดอกเบี้ยรวมได้หลายแสนบาทตลอดอายุสัญญา
 

5. ชำระหนี้ให้ตรงเวลา

ถึงแม้การชำระหนี้ตรงเวลาจะไม่ใช่กลยุทธ์ที่ช่วยเร่งลดเงินต้นโดยตรง แต่ถือเป็นวินัยทางการเงินขั้นพื้นฐานที่สำคัญต่อเป้าหมายระยะยาว การผิดนัดชำระหนี้ไม่เพียงแต่จะสร้างค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นในรูปของ "เบี้ยปรับ" แต่ยังส่งผลเสียร้ายแรงต่อ "ประวัติข้อมูลเครดิต" ของคุณ ซึ่งประวัติเครดิตที่ดีคือเงื่อนไขสำคัญในการขอรีไฟแนนซ์หรือรีเทนชันในอนาคต 
 

6. งดสร้างภาระหนี้เพิ่ม

การปลดหนี้บ้านจะเร็วหรือช้า ขึ้นอยู่กับสภาพคล่องทางการเงินโดยรวมเป็นสำคัญ การก่อหนี้ก้อนใหม่ที่ไม่จำเป็น เช่น หนี้บัตรเครดิตจากการใช้จ่ายเกินตัว หรือสินเชื่อส่วนบุคคลเพื่อการบริโภค จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อความสามารถในการชำระหนี้บ้าน เพราะกระแสเงินสดที่ควรจะนำไป "โปะ" บ้าน กลับต้องถูกแบ่งไปชำระหนี้สินอื่นที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า ซึ่งเป็นการบั่นทอนเป้าหมายหลักในระยะยาว

 

จะเห็นได้ว่าการผ่อนบ้านให้หมดไว เป็นสิ่งที่สามารถทำได้จริง หัวใจสำคัญอยู่ที่การวางแผนอย่างรอบคอบวินัยในการลงมือทำอย่างต่อเนื่อง และความเข้าใจทางการเงินที่ถูกต้อง จะช่วยให้การผ่อนบ้านง่าย และตอบโจทย์เป้าหมายทางการเงินของคุณมากที่สุด อีกทั้งการใช้วิธีที่ถูกต้องจะช่วยให้คุณประหยัดภาระการจ่ายดอกเบี้ยได้อย่างมหาศาลอีกด้วย

การรีไฟแนนซ์ คือ หนึ่งในกลยุทธ์ที่ช่วยลดภาระดอกเบี้ยได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยให้การผ่อนบ้านหมดไวขึ้น เพื่อให้การรีไฟแนนซ์ของคุณคุ้มค่าที่สุด LH Bank ขอนำเสนอ สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน ที่มาพร้อมข้อเสนอที่เหนือกว่า จากผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษา เปรียบเทียบความคุ้มค่า และช่วยวางแผนการเงินเพื่อให้คุณได้รับข้อเสนอที่ดี และเหมาะสมกับเป้าหมายของคุณ

สอบถามรายละเอียดสินเชื่อบ้านเพิ่มเติมได้ที่:
ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ทุกสาขา
เว็บไซต์: www.lhbank.co.th/th/personal/loans/
LH Bank Call Center: 1327
Facebook: LHBank

* หลักเกณฑ์และเงื่อนไขต่าง ๆ เป็นไปตามประกาศและระเบียบที่ธนาคารกำหนด
**กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
  • อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (EIR) สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ปัจจุบัน อยู่ระหว่าง 4.69% - 4.81%ต่อปี สมมติฐานการคำนวณมาจากอัตราดอกเบี้ย MRR = 8.53% ต่อปี อ้างอิง ณ วันที่ 27 พ.ค. 2568 ทั้งนี้ “อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้” รายละเอียดการคำนวณเพิ่มเติมดูได้ที่เว็บไซต์ http://www.lhbank.co.th
  • อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปี ดอกเบี้ยคงที่เริ่มต้นปีแรก = 1.59% ต่อปี ดอกเบี้ยปีที่ 2-3 = 3.63% ต่อปี โดยลูกค้าต้องทำประกัน MRTA/MLTA และไม่ฟรีค่าจดจำนอง ตามเงื่อนไขของธนาคาร
  • เงื่อนไขและอัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร LH Bank Call Center 1327 
  • โปรโมชันวันนี้ – 31 ต.ค. 2568

 
เรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง